: ข่าวด่วน ทันเหตุการณ์ เศรษฐกิจ การลงทุน หุ้น อสังหาริมทรัพย์ ไอที-เทคโนฯ รถยนต์ ท่องเที่ยว ต่างประเทศ รวดเร็วสดใหม่ทุกวัน 
นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของไทยในไตรมาส 3 ปี 2562 ยังไม่มีแรงหนุนเข้ามามากนัก ซึ่งเป็นภาพต่อเนื่องจากที่เศรษฐกิจเติบโตประมาณ 2.30% ในไตรมาส 2 ปี 2562 โดยแม้เศรษฐกิจในไตรมาส 3 ปี 2562 มีแรงหนุนจากฐานเปรียบเทียบที่ต่ำในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยว แต่กลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจตัวหลัก ทั้งการส่งออก และการลงทุนภาคเอกชนยังมีทิศทางชะลอตัว สอดคล้องกับการชะลอตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจและปริมาณการค้าโลก ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยืดเยื้อของการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน และความกังวลต่อความเสี่ยงเกี่ยวกับการถอนตัวของสหราชอาณาจักรจากสหภาพยุโรป อย่างไรก็ดี ทิศทางเศรษฐกิจไทยอาจได้รับแรงหนุนมากขึ้นจากมาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจของภาครัฐในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี
ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิสำหรับงวด 9 เดือน ปี 2562 จำนวน 29,924 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 3 ปี 2562 จำนวน 9,951 ล้านบาท
ผลการดำเนินงานสำหรับงวด 9 เดือน ปี 2562 เมื่อเปรียบเทียบกับงวด 9 เดือน ปี 2561 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 29,924 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 1,502 ล้านบาท หรือ 4.78% โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 4,051 ล้านบาท หรือ 5.54% ส่วนใหญ่เกิดจากรายได้ดอกเบี้ยรับของเงินให้สินเชื่อและเงินลงทุน ทำให้อัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (Net interest margin: NIM) อยู่ที่ระดับ 3.34% สำหรับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลงจำนวน 2,753 ล้านบาท หรือ 6.20% ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากรายได้สุทธิจากการรับประกันภัยลดลง และการยกเลิกค่าธรรมเนียมการโอนเงินผ่านช่องทางดิจิทัล ในขณะที่รายได้จากการจำหน่ายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่นๆ เพิ่มขึ้นจำนวน 2,684 ล้านบาท หรือ 5.49% ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่นๆ ต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ (Cost to income ratio) อยู่ที่ระดับ 43.41% ทั้งนี้ ธนาคารมีการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมา โดยพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบเพื่อให้สอดคล้องกับความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง
ผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 3 ปี 2562 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2562 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 9,951 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนจำนวน 22 ล้านบาท หรือ 0.23% ส่วนใหญ่เกิดจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 326 ล้านบาท หรือ 1.27% โดยมีอัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (Net interest margin: NIM) อยู่ที่ระดับ 3.34% รวมถึงรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจำนวน 2,139 ล้านบาท หรือ 15.68% ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากรายได้จากการจำหน่ายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่นๆ ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน โดยในไตรมาสนี้ อัตราส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่นๆ ต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ (Cost to income ratio) อยู่ที่ระดับ 42.52% อย่างไรก็ตาม ธนาคารมีการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมา โดยพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบเพื่อให้สอดคล้องกับความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง
ณ วันที่ 30 กันยายน 2562 ธนาคารและบริษัทย่อย มีสินทรัพย์รวมจำนวน 3,240,134 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2561 จำนวน 85,043 ล้านบาท หรือ 2.70% ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของเงินลงทุนสุทธิและเงินให้สินเชื่อ สำหรับเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (%NPL gross) ณ วันที่ 30 กันยายน 2562 อยู่ที่ระดับ 3.53% ขณะที่สิ้นปี 2561 อยู่ที่ระดับ 3.34% อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio) ณ วันที่ 30 กันยายน 2562 อยู่ที่ระดับ 153.58% โดยสิ้นปี 2561 อยู่ที่ระดับ 160.60% สำหรับอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยงของกลุ่มธุรกิจทางการเงินธนาคารกสิกรไทยตามหลักเกณฑ์ Basel III ณ วันที่ 30 กันยายน 2562 อยู่ที่ 19.10% โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ที่ 16.76%
KASIKORNBANK announced the nine-month period of 2019 net profit of Baht 29,924 Million
Ms. Kattiya Indaravijaya, President of KASIKORNBANK, said Thai economic activity in the third quarter of 2019 continued to see few supports, after growing by 2.30% in the second quarter of 2019. The Thai economy showed signs of strength in the third quarter of 2019, due mostly to the low base effect of the same period last year, especially in the tourism sector. However, exports and private investment – two major economic drivers – continued to slow in line with the sluggish global economy and trade volume amid the protracted US-China trade negotiations and concerns over Brexit risks. For the final quarter of this year, a brighter outlook seems to be in store for the Thai economy, thanks to the government’s stimulus measures.
Operating performance for the nine-month period of 2019, KBank and its subsidiaries reported net profit of Baht 29,924 Million, and reported net profit of Baht 9,951 Million, for the third quarter of 2019.
Operating performance for the nine-month period of 2019 compared with the same period of 2018, KBank and its subsidiaries reported net profit of Baht 29,924 Million, a decrease of Baht 1,502 Million or 4.78% over the same period of 2018. Net interest income increased by Baht 4,051 Million or 5.54% mainly due to interest income from loans to customers and investments. NIM stood at 3.34%. Non-interest income decreased by Baht 2,753 Million or 6.20% mainly due to a decrease in net premiums earned – net and fees waive for money transfers through digital channels, while revenue from sale of securities increased. Moreover, other operating expenses increased by Baht 2,684 Million or 5.49%, resulting in the cost to income ratio that stood at 43.41%. KBank has set aside higher allowance for impairment loss on loans from the preceding quarter, with prudent consideration on factors in line with uncertainties from continued economic slowdown.
Operating performance for the third quarter of 2019 compared with the second quarter of 2019, KBank and its subsidiaries reported net profit of Baht 9,951 Million, a slight increase from the preceding quarter of Baht 22 Million or 0.23% mainly due to an increase in net interest income increased by Baht 326 Million or 1.27%. NIM stood at 3.34%. Moreover, non - interest income increased by Baht 2,139 Million or 15.68% due mostly to revenue from sale of securities increased. In addition, other operating expenses was approximate to the previous quarter. In this quarter, cost to income ratio stood at 42.52%. However, KBank has set aside higher allowance for impairment loss on loans from the preceding quarter, with prudent consideration on factors in line with uncertainties from continued economic slowdown.
As of 30 September 2019, KBank and its subsidiaries’ total assets were Baht 3,240,134 Million, an increase of Baht 85,043 Million or 2.70% over the end of 2018. The majority came from an increase in investments – net and loans. NPL gross to total loans as of 30 September 2019 stood at 3.53% while at the end of 2018 this stood at 3.34%. Coverage ratio as of 30 September 2019 stood at 153.58%, while at the end of 2018 this stood at 160.60%. In addition, as of 30 September 2019, KASIKORNBANK FINANCIAL CONGLOMERATE’s Capital Adequacy Ratio (CAR) according to the Basel III Accord was 19.10%, with a Tier-1 Capital ratio of 16.76%.
AO10428
******************************************
Click Donate Support Web
